Parts of Speech




                Part of Speech หมายความว่า คำชนิดต่างๆในภาษาอังกฤษ เป็นการนำคำต่างๆมาเรียงให้เป็นวลี หรือประโยคที่มีความหมาย สามารถนำไปใช้ในบทสนทนา หรือนำไปเขียนหนังสือได้ มีทั้งหมด 7 ชนิด โดยในแต่ละชนิดนั้นจะมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่
1. Noun (คำนาม)
เป็นคำที่ใช้เรียกคน ชื่อคน สิ่งของ สัตว์ ทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต มีรูปร่างหรือไม่มีรูปร่าง และยังรวมไปไปถึงสถานที่ และความรู้สึกต่างๆ
            • คน: boy, girl, father, mother, teacher
            • สัตว์: cat, dog, bird, elephant, horse
            • สิ่งของ: pencil, book, table, car
            • ชื่อคน: Tom, John, Mary, Anny
            • สถานที่: school, hospital, house, store
            • ความรู้สึก: happiness, sadness

2. Pronoun (สรรพนาม)
เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำนามของสิ่งที่ถูกพูดมาก่อนแล้ว มีจุดหมายเพื่อเลี่ยงการเรียกชื่อคำนามซ้ำๆ เช่น ผม คุณ เธอ เขา ท่าน มัน และสามารถใช้เรียกสิ่งที่ไม่รู้ก็ได้ เป็นต้น
                I = ผม, ฉัน                               He = เขา                            She = เธอ, หล่อน
                It = มัน(สิ่งของ หรือสัตว์)        They = พวกเขา                You = คุณ, พวกคุณ
                We = พวกเรา, เรา                   Something = สิ่งใดสิ่งหนึ่ง (ที่เราไม่รู้)

3. Adjective (คำคุณศัพท์)
เป็นคำที่มีหน้าที่อธิบายหรือขยายคำนามหรือคำสรรพนาม ที่เป็นการลงรายละเอียดบอกคุณสมบัติของสิ่งนั้น จำพวก สี ขนาด รูปร่าง ท่าทาง เช่น
            She bought a new toy. : เธอซื้อของเล่นใหม่ (ขยายคำสรรพนาม)
            That bird is blue. : นกตัวนั้นมีสีน้ำเงิน (ขยายคำนาม)
            He is a rich man. : เขาเป็นคนรวย (ขยายคำสรรพนาม)
            My school is very old. : โรงเรียนของฉันเก่ามาก (ขยายคำนาม)

4. Verb (คำกริยา)
เป็นคำที่บอกการกระทำ, ความเป็นอยู่, สภาวะความเป็นอยู่ของคำนาม หรือคำสรรพนาม
            He kicks the ball. : เขาเตะลูกบอล
            The dog barks at a boy. : สุนัขเห่าใส่เด็กผู้ชาย
            Tom is a teacher. : ทอมเป็นคุณครู
            She seems alright. : เธอดูสบายดีนะ

5. Adverb (วิเศษณ์ หรือกริยาวิเศษณ์)
เป็นคำที่มีหน้าที่อธิบายหรือขยายคุณศัพท์ คำกริยา หรือแม้แต่คำวิเศษณ์เอง
            My school is very old. : โรงเรียนของฉันเก่ามาก (ขยายคำคุณศัพท์)
            He works hard. : เขาทำงานหนัก (ขยายคำกริยา)
            He works very hard. : เขาทำงานหนักมาก (ขยายคำวิเศษณ์)

6. Preposition (คำบุพบท)
เป็นคำที่วางอยู่หน้าคำนามหรือคำสรรพนาม เพื่อบ่งบอกว่าคำนามหรือคำสรรพนามนั้นมีความเกี่ยวข้องกับคำอื่นๆในประโยคอย่างไรบ้าง เช่น in, on, at, with, within
                He comes with me. : เขามากับฉัน
                Cat is on the tree: แมวอยู่บนต้นไม้
                He is in the toilet: เขาอยู่ในห้องน้ำ

7. Conjunction (คำสันธาน)
เป็นคำที่ใช้เชื่อมคำหรือประโยคเข้าด้วยกันเพื่อให้ประโยคมีความสมบูรณ์มากขึ้น เช่น and, or, but, for
            Tom and Tim are good friends. : ทอมและจิมเป็นเพื่อนที่ดี
            Would you like tea or coffee? : คุณจะเอาชาหรือกาแฟ
            I want to help him, but I can’t. : ผมก็อยากช่วยเขาแต่ผมทำไม่ได้

8. Interjection (คำอุทาน)
เป็นคำที่ใช้แสดงถึงอารมณ์ และความรู้สึกที่เกิดขึ้น แต่เป็นคำที่ไม่เกี่ยวข้องกับคำประเภทอื่นๆเลย
            Wow! You are very beautiful. : ว้าว! เธอสวยมากเลย
            Damn it! I forgot my wallet. : ให้ตายสิ! ฉันลืมกระเป๋าตัง

            Oops! I’m sorry. : อุ๊ยตาย! ฉันขอโทษ